พูดถึงชื่อ ‘โรคอีสุกอีใส’ เชื่อว่าใครได้ยินก็คงต้องเบ้หน้าแล้วร้องยี้ เพราะนอกจากจะเป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยเป็นไข้ อ่อนเพลีย และแพร่ระบาดได้ง่าย โดยเฉพาะในเด็กแล้ว อีสุกอีใสยังเป็นไข้ออกผื่นที่ทิ้งรอยตุ่มไว้ให้ดูต่างหน้าอีกเพียบ ทั้งคัน ทั้งเป็นหนอง ทั้งผุดขึ้นทั่วทุกบริเวณของร่างกาย แถมหายแล้วหลายคนยังเป็นแผลเป็นต้องรักษากันต่ออีกหลายปี วันนี้เราจึงจะมาดูกันว่าหากป่วยเป็นอีสุกอีใส ควรรับมือตุ่มกวนใจอย่างไรไม่ให้เกิดเป็นแผลเป็น!
สาเหตุโรคอีสุกอีใส วัยไหน ๆ ก็เป็นได้
โรคอีสุกอีใส เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส Varicella-Zoster แพร่ระบาดได้ง่าย โดยเฉพาะในเด็กและผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันมาก่อน อาการเบื้องต้นคือมีผื่นคัน เป็นไข้ เบื่ออาหาร ปวดศีรษะ อ่อนล้า และไม่สบายตัว จะไม่แสดงอาการรุนแรงในกลุ่มคนที่สุขภาพดี แต่หากมีอาการเสี่ยง ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับยาต้านไวรัสและตรวจหาอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ เพื่อความปลอดภัย
เคล็ดลับดูแลตุ่มอีสุกอีใสอย่างถูกวิธี
หากป่วยเป็นโรคอีสุกอีใส มีตุ่มขึ้นตามร่างกาย และไม่อยากให้ตุ่มเหล่านั้นกลายเป็นแผลเป็นในอนาคต สิ่งที่ควรทำคือควรอาบน้ำและฟอกสบู่ให้ผิวสะอาด เพื่อช่วยลดอาการคัน ตัดเล็บให้สั้นเพื่อป้องกันเล็บไปสะกิดตุ่มจนหนองแตกออกและลุกลาม ให้ยาแก้คันเพื่อช่วยลดอาการคัน รวมทั้งทา Calamine Lotion ก็สามารถช่วยลดอาการคันได้เช่นกัน
ที่สำคัญ ควรหลีกเลี่ยงการแกะเกาบริเวณตุ่มโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนจนลุกลามและทำให้ผิวหนังเสียหายได้
นอกจากการดูแลตุ่มอีสุกอีใสเพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็นแล้ว ผู้ป่วยต้องดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะ ๆ และกินยาตามที่แพทย์สั่ง เพียงเท่านี้ก็สามารถเอาชนะโรคอีสุกอีใสตัวร้ายได้แบบสบาย ๆ แล้ว