หากพูดถึงอุปกรณ์สำคัญในการซักผ้า ใครหลายคนอาจนึกถึงการใช้ผงซักฟอกในการทำความสะอาดเนื้อผ้า จากนั้นจึงใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเพื่อช่วยทำให้ผ้าหอมนุ่มน่าใส่ แต่เคยไหม? ผ้าที่ซักใหม่ก็ยังเหม็นอับอยู่ทั้ง ๆ ที่นำผงซักฟอกมาใช้ร่วมกับน้ำยาปรับผ้านุ่มแล้ว แถมนำไปตากแดดเพื่อทำให้ผ้าแห้งสนิทและหอมแดดแล้วก็ยังมีกลิ่นเหม็นอับอยู่ดี
หากใครกำลังเจอเข้ากับปัญหานี้อยู่ ไม่แน่ว่าคุณอาจกำลังใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับเนื้อผ้าอยู่ก็เป็นได้ โดยหากใครกำลังแก้ปัญหานี้อยู่ไม่ตก ขอแนะนำให้ลองนำเครื่องปรุงติดบ้านอย่าง “น้ำส้มสายชู” มาใช้แทนน้ำยาปรับผ้านุ่มดู แต่ทำไมต้องนำน้ำส้มสายชูมาใช้ ที่นี่มีคำตอบ!
ทำไมต้องใช้น้ำส้มสายชู
ใครหลายคนอาจยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมเราจึงควรใช้น้ำส้มสายชูแทนน้ำยาปรับผ้านุ่ม คำตอบ คือ ตัวน้ำยาปรับผ้านุ่มนั้นจะเป็นตัวเข้าเคลือบและทำให้เส้นใยของผ้าไม่สามารถอุ้มน้ำได้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้ผ้าเสียประสิทธิภาพในการดูดซับน้ำเท่านั้น แต่เมื่อเส้นใยดูดซึมน้ำยาปรับผ้านุ่มและน้ำซักผ้าเข้าไปก็จะเกิดสารเคมีตกค้าง ทำให้ผ้าเหม็นอับแม้ว่าจะตากแดดเป็นระยะเวลานานแล้วก็ตาม
การใช้น้ำส้มสายชูส่งผลดีต่อเนื้อผ้าอย่างไร
น้ำส้มสายชูเป็นอีกหนึ่งเครื่องปรุงที่มาพร้อมกรดอะซิตริกอ่อน ๆ ที่ไม่เพียงแต่จะแทรกซึมลงไปในเนื้อผ้าเพื่อทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึกเท่านั้น แต่ยังมีฤทธิ์ในการช่วยกำจัดเชื้อโรค ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของกลิ่นอับได้ นอกจากนี้ ตัวกรดอ่อน ๆ นี้จะช่วยทำให้ผ้ามีสีสันที่สดใส ลดคราบเหลือง และคราบสกปรกต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญ การใช้น้ำส้มสายชูยังช่วยทำให้ผ้าเนื้อนุ่มฟูขึ้นอีกด้วย
ควรใช้น้ำส้มสายชูซักผ้าแบบใดบ้าง
ทุกคนสามารถใช้น้ำส้มสายชูได้กับผ้าทุกประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าขนหนู เสื้อผ้ากีฬา รวมไปถึงเสื้อผ้าที่มีเส้นใยพิเศษที่สามารถอุ้มน้ำได้ดีอย่างผ้าไมโครไฟเบอร์ และผ้าฝ้าย ซึ่งการใช้น้ำส้มสายชูซักผ้าประเภทนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกไปเท่านั้น แต่ยังเป็นมิตรต่อเส้นใย ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน ไม่อุ้มน้ำ ซึ่งอาจทำให้สุขภาพผิวระคายเคืองได้
ควรใช้น้ำส้มสายชูปริมาณเท่าใด
หลายคนอาจเป็นกังวลว่า น้ำส้มสายชูจะทำให้ผ้ามีกลิ่นเหม็น แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลิ่นของน้ำส้มสายชูจะหายไปเมื่อทำการซักและตากผ้าเสร็จ ซึ่งทุกคนสามารถเทน้ำส้มสายชูลงไปที่ช่องน้ำยาปรับผ้านุ่มได้ หรือจะผสมน้ำส้มสายชูครึ่งถ้วยตวงก่อนที่จะบิดผ้าให้หมาดก็ได้เช่นกัน
เพียงเท่านี้ทุกคนก็สามารถบอกลาปัญหาผ้าเหม็นอับได้ง่าย ๆ แล้ว อย่าลืมนำเคล็ดลับดี ๆ ที่นำมาฝากนี้ไปลองใช้เพื่อทำให้ผ้าที่ซักใหม่หอมนุ่ม ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ และเป็นมิตรต่อผิวมากขึ้นนะ