เครื่องหมายอย.และฉลากเครื่องมือแพทย์นั้นมีความสำคัญอย่างไร

เครื่องหมายอย.นั้นถือเป็นฉลากเครื่องมือแพทย์แบบหนึ่ง ซึ่งมีระบุไว้เพื่อเป็นมาตรฐานให้กับเครื่องมือแพทย์ว่ามีความปลอดภัยและผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาเรียบร้อยแล้ว วันนี้เราจะมาดูกันว่ามีผลิตภัณฑ์ใดบ้างที่ต้องขอเครื่องหมายอย. และเครื่องหมายนั้นสำคัญอย่างไร

กลุ่มผลิตภัณฑ์ใดบ้างที่ต้องขอเครื่องหมายอย.

1. ยา แน่นอนว่ากลุ่มแรกที่ต้องมีเครื่องหมายนี้อย่างแน่นอนก็คือกลุ่มยาเพื่อแสดงถึงความปลอดภัย

2. อาหาร กลุ่มถัดมาคืออาหาร ซึ่งอาหารนั้นจะมีด้วยกัน 3 ประเภทที่ต้องขอเครื่องหมายนี้ ได้แก่ อาหารที่ต้องมีฉลาก อาหารควบคุมเฉพาะ และอาหารที่กำหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน

3. เครื่องมือแพทย์ สำหรับเครื่องมือแพทย์นั้นจะต้องมีฉลากเครื่องมือแพทย์ เพื่อเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเครื่องมือนี้มีความปลอดภัย ได้มาตรฐาน เหมาะสำหรับการใช้งาน และไม่เป็นการโฆษณาเกินจริง

4. เครื่องสำอาง ในปัจจุบันมีการเข้มงวดเรื่องการให้เครื่องหมายอย.กับเครื่องสำอางมากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าได้ใช้สินค้าที่ปลอดภัยไม่เป็นอันตราย 

5. วัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้าน เช่น ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารเคมีต่าง ๆ อย่างน้ำยาทำความสะอาด มีเครื่องหมายไว้เพื่อแสดงถึงประสิทธิภาพในการใช้งานและความปลอดภัย

ประโยชน์ของเครื่องหมายอย.และฉลากเครื่องมือแพทย์

  • ทำให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้นั้นมีความปลอดภัย ได้มาตรฐาน ไม่ก่อให้เกิดอันตราย
  • หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ผู้บริโภคได้รับอันตรายจากการใช้งาน มีสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องได้
  • หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการตรวจสอบและเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์นั้น ๆ อยู่เสมอ ทำให้ผู้บริโภครู้สึกอุ่นใจ
  • ทำให้เจ้าของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้น ๆ สามารถสร้างความน่าเชื่อถือจากสินค้าได้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

นวดเท้า
Health

“นวดเท้า” ดีอย่างไร ทำไมคนเคยนวดถึงติดใจไปซ้ำแล้วซ้ำอีก 

วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับการนวดเท้า ซึ่งหลายคนที่เคยลองแล้ว ติดอกติดใจ รู้สึกว่าเป็นหนึ่งการผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า

Read More
Health Uncategorized

ทำวีเนียร์คืออะไร? พร้อมแนะนำ 3 คลินิกที่คุณควรใช้บริการ

เราขอแนะนำการจัดฟันรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า การทำวีเนียร์ให้แก่คุณ สำหรับใครที่สงสัยว่าคืออะไร และถ้าอยากทำควรไปทำที่ไหนได้บ้าง

Read More
chickenpox
Health

วิธีรับมือ ‘ตุ่มอีสุกอีใส’ ไข้ออกผื่นที่วัยไหนก็เป็นได้!

พูดถึงชื่อ ‘โรคอีสุกอีใส’ เชื่อว่าใครได้ยินก็คงต้องเบ้หน้าแล้วร้องยี้ เพราะนอกจากจะเป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยเป็นไข้ อ่อนเพลีย และแพร่ระบาดได้ง่าย โดยเฉพาะในเด็กแล้ว อีสุกอีใสยังเป็นไข้ออกผื่นที่ทิ้งรอยตุ่มไว้ให้ดูต่างหน้าอีกเพียบ ทั้งคัน ทั้งเป็นหนอง ทั้งผุดขึ้นทั่วทุกบริเวณของร่างกาย แถมหายแล้วหลายคนยังเป็นแผลเป็นต้องรักษากันต่ออีกหลายปี วันนี้เราจึงจะมาดูกันว่าหากป่วยเป็นอีสุกอีใส ควรรับมือตุ่มกวนใจอย่างไรไม่ให้เกิดเป็นแผลเป็น! สาเหตุโรคอีสุกอีใส วัยไหน ๆ ก็เป็นได้ โรคอีสุกอีใส เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส Varicella-Zoster แพร่ระบาดได้ง่าย โดยเฉพาะในเด็กและผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันมาก่อน อาการเบื้องต้นคือมีผื่นคัน เป็นไข้ เบื่ออาหาร ปวดศีรษะ อ่อนล้า และไม่สบายตัว จะไม่แสดงอาการรุนแรงในกลุ่มคนที่สุขภาพดี แต่หากมีอาการเสี่ยง ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับยาต้านไวรัสและตรวจหาอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ เพื่อความปลอดภัย เคล็ดลับดูแลตุ่มอีสุกอีใสอย่างถูกวิธี หากป่วยเป็นโรคอีสุกอีใส มีตุ่มขึ้นตามร่างกาย และไม่อยากให้ตุ่มเหล่านั้นกลายเป็นแผลเป็นในอนาคต สิ่งที่ควรทำคือควรอาบน้ำและฟอกสบู่ให้ผิวสะอาด เพื่อช่วยลดอาการคัน ตัดเล็บให้สั้นเพื่อป้องกันเล็บไปสะกิดตุ่มจนหนองแตกออกและลุกลาม ให้ยาแก้คันเพื่อช่วยลดอาการคัน รวมทั้งทา Calamine Lotion ก็สามารถช่วยลดอาการคันได้เช่นกัน ที่สำคัญ ควรหลีกเลี่ยงการแกะเกาบริเวณตุ่มโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนจนลุกลามและทำให้ผิวหนังเสียหายได้ นอกจากการดูแลตุ่มอีสุกอีใสเพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็นแล้ว ผู้ป่วยต้องดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะ ๆ และกินยาตามที่แพทย์สั่ง เพียงเท่านี้ก็สามารถเอาชนะโรคอีสุกอีใสตัวร้ายได้แบบสบาย […]

Read More