เพราะอาหารเปียกคือแหล่งสารอาหารชั้นยอดที่จะช่วยให้เจ้าสุนัขตัวน้อยได้เติบโตอย่างแข็งแรง ดังนั้น ไม่เพียงแต่จะเลือกยี่ห้อที่มีสารอาหารที่ครบถ้วนและเหมาะกับวัยของสุนัขเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เจ้าของอย่างเรา ๆ ก็ควรรู้จักวิธีเก็บอาหารเปียกสุนัขอย่างถูกต้องเพื่อเป็นการรักษาสุขภาพของน้อง ๆ ให้ปลอดภัย และแข็งแรงอยู่คู่กับเราไปได้นาน ๆ แล้วเราจะมีวิธีเก็บอาหารเปียกสุนัขอย่างไรให้ปลอดภัยกับสุขภาพของน้องสุนัขบ้าง วันนี้เรามีคำตอบ!
เก็บไว้ในอุณหภูมิที่พอเหมาะ และที่ห่างไกลความร้อน
วิธีเก็บอาหารเปียกสุนัขวิธีแรกเริ่มต้นตั้งแต่การเก็บอาหารที่เพิ่งซื้อมา โดยทั่วไปแล้ว อาหารเปียกของสัตว์เลี้ยงทั้งของสุนัขและของแมวนั้นต้องเก็บอยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิพอเหมาะตั้งแต่ 2 – 35 องศาเซลเซียสเนื่องจากอาหารเปียกนั้นมีน้ำในปริมาณที่ค่อนข้างสูง นอกจากนี้ ห้องที่เก็บอาหารเปียกนั้นยังควรควบคุมให้มีความชื้นสัมพัทธ์ต่ำกว่า 70% อีกด้วย เพราะหากเก็บอาหารเปียกในที่ที่มีความชื้นสูงเกินไปก็อาจทำให้อาหารเสียง่ายเช่นเดียวกัน
หากน้องหมากินอาหารในชามไม่หมดให้ทิ้งทันที
สำหรับเจ้าของมือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าน้องจะชอบอาหารเปียกหรือไม่ เราอยากขอแนะนำให้คุณลองแบ่งให้อาหารน้องในปริมาณที่น้อย ๆ ก่อน ซึ่งถ้าหากน้องกินไม่หมดก็อย่าได้เสียดาย และรอว่าน้องจะกลับมากินต่อ แต่เราอยากขอให้ทิ้งอาหารของน้องไปในทันที เพราะ อาหารเปียกที่โดนอากาศแล้วนั้นมีแนวโน้มที่จะบูดและเสียได้ง่ายมาก ซึ่งหากรอให้น้องกลับมากินให้หมดก็อาจทำให้น้องท้องเสียและเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหารได้ง่าย ๆ ดังนั้น วิธีเก็บอาหารเปียกสุนัขที่น้องกินไม่หมดที่ดีที่สุดก็คือ ทิ้งลงถังขยะนั่นเอง
แต่ถ้าหากอาหารยังอยู่ในซองก็เก็บเข้าตู้เย็นได้
แต่ถ้าหากน้องกินอาหารเปียกหมดเกลี้ยงในทันที แต่ยังต้องการที่จะแบ่งอาหารเก็บไว้ให้น้องกินรอบหน้า วิธีเก็บอาการเปียกสุนัขที่ดีที่สุดก็คือควรเก็บในภาชนะที่ปิดสนิทและปิดแน่น ๆ ไว้ในตู้เย็นทันที และที่สำคัญ ควรให้น้องกินอาหารที่เหลือนี้ให้หมดภายใน 2 วัน เพราะมิเช่นนั้นน้องอาจท้องเสียได้